ในช่วงการตั้งครรภ์ การปวดเป็นสิ่งที่พบได้บ่อย และอาจทำให้คุณรู้สึกไม่สบายหรือทำงานได้ลำบาก กรณีที่คุณต้องการใช้ยาแก้ปวด คุณอาจกังวลว่าการทานยาอาจไปกระทบต่อลูกน้อยของคุณ แต่จริงๆ แล้วบางตัวสามารถทานได้ อย่างไรก็ตาม เป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องเลือกยาที่ปลอดภัยและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งคัด
ในส่วนนี้เราจะพูดถึงปัญหาของการกินยาแก้ปวดขณะตั้งครรภ์ รวมถึงกลุ่มยาที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับคนท้อง รวมถึงคำแนะนำในการดูแลตัวเองและลูกน้อยขณะกินยา คุณจะได้รับความรู้เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจว่าคุณควรทานยาหรือไม่ และเลือกยาที่เหมาะสมสำหรับคุณและลูกน้อยของคุณ
บทความน่าสนใจแนะนำ : 3 เคล็ด(ไม่)ลับ แก้อาการ คนท้องปวดหลัง ขณะตั้งครรภ์

คนท้องกินยาแก้ปวดได้ไหม ?
การกินยาแก้ปวดในระหว่างการตั้งครรภ์ควรคำนึงถึงความปลอดภัยของยาและผลกระทบต่อคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ เพราะบางยาอาจมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาของลูกน้อยได้
สามารถทานยาแก้ปวดหรือไม่นั้น จะขึ้นอยู่กับประเภทของยา และสภาวะความปวดของคุณ อย่างไรก็ตาม การใช้ยาแก้ปวดควรมีคำปรึกษาจากแพทย์หรือเภสัชกรที่มีความรู้เกี่ยวกับการใช้ยาในช่วงการตั้งครรภ์ เพื่อให้คุณแม่และลูกน้อยได้รับประโยชน์และความปลอดภัยสูงสุด
หากคุณแม่ต้องการรับยาแก้ปวด แพทย์หรือเภสัชกรจะสามารถแนะนำเลือกใช้ยาที่ปลอดภัยที่สุดในช่วงครรภ์ และควรปฏิบัติตามคำแนะนำและวิธีใช้ที่ระบุไว้ในรายละเอียดยาอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาเกินขนาดที่แนะนำและหลีกเลี่ยงยาที่อาจมีผลกระทบต่อการพัฒนาของลูกน้อย
อย่าลืมควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับสภาวะครรภ์ของคุณ เพื่อให้พวกเขาสามารถให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์และครอบคลุมทั้งปัจจัยความปลอดภัยและประโยชน์ของยาในการดูแลสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยในช่วงครรภ์อย่างเหมาะสม
คนท้องกินยาอะไรได้บ้าง ?
การกินยาในระหว่างตั้งครรภ์จำเป็นต้องระมัดระวังอย่างมาก เนื่องจากการกินยาบางชนิดอาจเป็นอันตรายต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะกินยา แต่ถ้าต้องการใช้ยาแก้ปวดบ้าง ยาต่อไปนี้จะไม่เป็นอันตรายต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ได้:
ประเภทของยา | ตัวอย่างยา | ข้อควรระวังและคำแนะนำ |
---|---|---|
พาราเซตามอล (Paracetamol) | พาราเซตามอล (Paracetamol) | เป็นยาแก้ปวดที่ถือว่าปลอดภัยในการใช้ระหว่างการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตามควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์และเภสัชกร |
ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) | ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) | ในบางกรณี แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ในช่วงต้นครรภ์ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เมื่อเข้าสู่ช่วงตั้งครรภ์ที่ล่าสุด |
ยานอนหลับและแก้ปวด | ยานอนหลับที่ไม่มีโคโดนาไซเปิน (Non-Benzodiazepine Sleep Aids) | ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยานอนหลับ และไม่ควรใช้ร่วมกับยาแก้ปวดที่อื่น |
หากคุณต้องการใช้ยาแก้ปวดในช่วงการตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรที่มีความรู้เกี่ยวกับการใช้ยาในช่วงครรภ์ พวกเขาจะช่วยให้คำแนะนำที่ถูกต้องเพื่อให้คุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ได้รับประโยชน์และความปลอดภัยสูงสุด

คำแนะนำการใช้ยาในระหว่างตั้งครรภ์
การใช้ยาในช่วงตั้งครรภ์เป็นเรื่องที่ต้องให้ความระมัดระวัง โดยควรปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกร และควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่จำเป็น
หากคุณท้องและต้องการยาลดอาการปวดบวม หรือปวดธรรมดาทั่วๆ ไป คุณสามารถใช้ยาแก้ปวดเล็กน้อยที่ใช้บ่อยเช่นพาราเซตามอลแต่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้
- อ่านฉลากยาและคำแนะนำการใช้ให้ละเอียดก่อนใช้ยาทุกครั้ง
- ใช้ยาตามปริมาณและระยะเวลาที่แพทย์ระบุ
- ห้ามเกินปริมาณยาที่แพทย์ระบุ หรือเพิ่มปริมาณยาเอง
- ห้ามใช้ยาที่หมดอายุหรือเกินวันที่ใช้ได้
- หากมีอาการผิดปกติหรือไม่พึงประสงค์หลังใช้ยา ควรปรึกษาแพทย์ทันที
นอกจากนี้ ยังมีวิธีการช่วยระงับอาการปวดที่ไม่ใช่ยา อาทิการนวดมือ การวางหมอนใต้ขา การประคบน้ำร้อนหรือเย็น การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันผ่านการออกกำลังกาย การหมุนเวียนข้อต่อ เป็นต้น มีหลายวิธีที่คุณสามารถลองเลือกใช้ตามความเหมาะสม
ผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ ของการทานยาผิดประเภท
การเกิดผลกระทบต่อทารกในครรภ์: บางยาอาจมีความเสี่ยงต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาของทารกในครรภ์ เช่น การทานยาในกลุ่มออกซีโคดอน (NSAIDs) ในระยะสุดท้ายของการตั้งครรภ์อาจส่งผลให้ทารกในครรภ์มีปัญหาในการพัฒนาเช่น ปัญหาที่เกี่ยวกับการพัฒนาของระบบทางเดินปัสสาวะ หรือการเกิดภาวะโรคเรื้อรังในภายหลังการเกิด
เสี่ยงต่อการแท้งลูก: การทานยาบางชนิดในปริมาณมากเกินไปหรือไม่ถูกต้องอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดการแท้งลูก
ผลกระทบต่อระบบการทำงานของร่างกาย: บางยาอาจมีผลกระทบต่อระบบทางเดินเมืองปัสสาวะ หรือระบบหัวใจและเส้นเลือด เช่น ยาแอสไพริน (Aspirin) อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของลูกน้อยในครรภ์
อาจมีปัญหาเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของทารก: ยาบางตัวอาจทำให้ทารกในครรภ์มีน้ำหนักต่ำหรือมีปัญหาเกี่ยวกับการเจริญเติบโต
อาจทำให้ป่วยหนักขึ้น: การรับประทานยาที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ปลอดภัยอาจทำให้คุณแม่มีอาการไม่สบายเพิ่มขึ้น หรือมีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ
ผลกระทบต่อจิตใจ: บางยาอาจมีผลกระทบต่อจิตใจของคุณแม่ เช่น ยานอนหลับบางชนิดที่อาจส่งผลให้คุณแม่มีอาการเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าหรือไม่มีความพึงพอใจ
การรับประทานยาในช่วงการตั้งครรภ์ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และเภสัชกรเสมอ หากคุณคิดที่จะทานยาแก้ปวดหรือยาอื่นใดในช่วงการตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้ได้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ยาที่เหมาะสมแล

ยาที่ควรหลีกเลี่ยงในการใช้ระหว่างตั้งครรภ์
การกินยาแก้ปวดในช่วงครรภ์อาจเสี่ยงต่อการทำให้เกิดผลข้างเคียงกับแม่และทารกในครรภ์ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้บางประเภทของยา ซึ่งรวมถึง:
ประเภทของยา | ตัวอย่างยา | ข้อควรระวังและคำแนะนำ |
---|---|---|
ออกซีโคดอน (Ibuprofen) | ออกซีโคดอน (Ibuprofen) | ในช่วงต้นครรภ์อาจถูกให้ในบางกรณี แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ ในช่วงครรภ์หลังครรภ์ระยะกลางและปลายควรหลีกเลี่ยงการใช้ |
ออกซิแอสิด (Aspirin) | ออกซิแอสิด (Aspirin) | ในบางกรณีแพทย์อาจแนะนำให้ใช้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ การใช้ในช่วงครรภ์ต้องระมัดระวังเนื่องจากความเสี่ยงต่อครรภ์ |
ยานอนหลับและแก้ปวด | ยานอนหลับที่มีโคโดนาไซเปิน (Benzodiazepines) | ยานอนหลับที่มีโคโดนาไซเปินเป็นตัวอย่างของยาที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงครรภ์ เพราะอาจมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อย |
เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และลูกน้อย ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรที่มีความรู้เกี่ยวกับการใช้ยาในช่วงครรภ์เสมอ หากคุณต้องการรับประทานยาหรือมีคำถามเกี่ยวกับการใช้ยาในช่วงครรภ์ ควรปรึกษาเชิงส่วนตัวกับผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับสุขภาพคุณแม่และลูกน้อยในช่วงครรภ์
สรุป
การทานยาแก้ปวดในช่วงครรภ์อาจเป็นเรื่องที่ทุกคนกังวล เนื่องจากอาจมีผลกระทบต่อการพัฒนาของทารกในครรภ์ แต่จริงๆแล้ว คนท้องกินยาแก้ปวดได้ แต่ต้องระวังเลือดออกหรือมีอาการปวดท้องเต้านมด้วย โดยควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาเสมอ
ยาแก้ปวดที่คนท้องสามารถกินได้ประกอบไปด้วย:
- พาราเซตามอล (Paracetamol) – ยาแก้ปวดที่ปลอดภัยและได้รับการแนะนำโดยแพทย์
- ยาน้ำมันจากพืชสมุนไพร เช่น ผงขมิ้น, ผงข่า, ผงตะไคร้ ฯลฯ
- ยาแก้ปวดที่ประกอบด้วยไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือแอสไพริน (Aspirin) ไม่ควรใช้ในช่วงครรภ์ เพราะอาจเกิดผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้
นอกจากนี้ยังมีวิธีการช่วยบรรเทาอาการปวดท้องในช่วงครรภ์อีกด้วย เช่น การนอนหลับพักผ่อนเพียงพอ, การออกกำลังกายอย่างเบาๆ เช่น การเดินเล่นหรือเล่นเกมที่ไม่ใช้กำลังร่างกายมาก, การอาบน้ำอุ่น, การวางหมอนรองท้อง ฯลฯ
ดังนั้น คนท้องสามารถกินยาแก้ปวดได้ แต่ต้องระวังการใช้ยาที่ไม่เหมาะสมหรืออันตรายต่อทารกในครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาเสมอ และควรใช้วิธีการช่วยบรรเทาอาการปวดท้องในช่วงครรภ์ด้วย
FAQs
การกินยาแก้ปวดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้รวมถึง ปวดศีรษะ แน่นหน้าอก และอาเจียน
คนท้องควรเลือกใช้ยาแก้ปวดที่เป็นยาที่ปลอดภัยสำหรับตั้งครรภ์ที่ถูกอนุญาตและแนะนำโดยแพทย์