การถ่ายอุจจาระเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเผาผลาญสารพิษในร่างกายเป็นเรื่องที่เป็นปกติ แต่หากไม่ถ่ายเป็นเวลานานหลายวัน อาจเป็นสัญญาณของภาวะที่ไม่ปกติ หากคุณพ่อ และคุณแม่พบอาการเหล่านี้ ไม่ควรมองข้ามและพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาได้อย่างถูกต้อง
สาเหตุที่ทารกถ่ายไม่ออก
-
การเปลี่ยนแปลงในอาหาร: เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในการรับประทานอาหาร หากทารกได้รับนมหรืออาหารใหม่เปลี่ยนจากที่เคยรับมา อาจทำให้ระบบย่อยสลายอาหารของทารกต้องปรับตัวก่อนที่จะเริ่มที่จะขับถ่ายอีกครั้ง
-
การท้องผูก (Constipation): สาเหตุที่พบบ่อยคือการท้องผูก ซึ่งเกิดจากอาหารที่ย่อยยาก ขาดใยอาหารหรือขาดน้ำ ทำให้การขับถ่ายไม่สะดวกและเคลื่อนไหวของลำไส้ลดลง
-
การแพ้อาหาร: บางครั้งทารกอาจมีการแพ้อาหารบางชนิด ที่อาจทำให้ระบบย่อยสลายอาหารไม่ทำงานได้เป็นปกติ และทำให้การเคลื่อนไหวของลำไส้ลดลง
-
การติดเชื้อ: การติดเชื้อในทางเดินอาหารหรือทางเดินเดินปัสสาวะอาจส่งผลให้ทารกไม่ขับถ่าย ตัวอย่างเช่น การติดเชื้อที่ทำให้ระบบย่อยสลายอาหารและการขับถ่ายไม่ทำงานได้ตามปกติ
-
สภาวะทางกายภาพ: เช่น การมีข้อบกพร่องในระบบทางเดินอาหาร หรือกล้ามเนื้อทางเดินอาหารที่ไม่ทำงานได้
หากคุณมีข้อกังวลเกี่ยวกับสุขภาพทารกควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลเพื่อให้ได้คำแนะนำและการวินิจฉัยที่ถูกต้องและเหมาะสม อย่างไรก็ตาม การไม่ถ่ายของทารกอาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางสุขภาพ ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อรับการประเมินและคำแนะนำที่เหมาะสม.

อาการที่พ่อแม่ควรสังเกต
การไม่ถ่ายของทารกเป็นเรื่องที่พ่อแม่ควรสังเกตตั้งแต่เกิด เพราะมันเป็นสัญญาณหนึ่งที่บอกว่าระบบทางเดินอาหารของทารกมีปัญหา ดังนั้น พ่อแม่ควรสังเกตอาการเหล่านี้:
- หากไม่ถ่ายติดต่อกันเป็นเวลากว่า 2-3 วัน อาจเป็นสัญญาณว่าระบบทางเดินอาหารมีปัญหา พ่อแม่ควรรีบพบแพทย์
- ทารกถ่ายมากหรือน้อยเกินไป: ถ้าทารกถ่ายเกิน 5-6 ครั้งต่อวันหรือถ่ายน้อยกว่า 1 ครั้งต่อวันก็อาจเป็นสัญญาณว่าระบบทางเดินอาหารของทารกไม่ปกติ
- ถ้าทารกมีอาการท้องบวมแต่ไม่ถ่าย อาจมีปัญหาเรื่องของระบบทางเดินอาหาร ควรนำทารกไปพบแพทย์
- ถ้าทารกมีอาการอ่อนเพลียหรือไม่สนใจอย่างที่เคย หรือไม่อยู่ในสภาพที่สนใจเหมือนเดิม อาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางสุขภาพ
- ถ้าทารกมีอาการง่วงเพราะไม่ถ่ายอุจจาระ อาจเป็นสัญญาณชี้วัดว่าระบบทางเดินอาหารของทารกไม่สมบูรณ์
หากคุณพ่อ และคุณแม่พบอาการเหล่านี้ ควรนำทารกไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีควบคุมอาการ
การควบคุมอาการจะได้รับผลดีเมื่อศึกษาและรู้จักปัจจัยที่ส่งผลต่อปัญหานี้ ดังนั้น สิ่งที่คุณพ่อ คุณแม่ควรทำเพื่อควบคุมอาการ ได้มีดังนี้
- หากทารกไม่ขับถ่ายตามปกติ และมีอาการ เช่น มีอาการปวดท้อง มีไข้ หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ตรวจสอบช่วงเวลาที่ทารกไม่ถ่าย ว่ามีการเปลี่ยนแปลงในอาหารหรือสภาพเป็นอย่างไร.
- ตรวจสอบว่าทารกได้รับอาหารที่เหมาะสมและสมดุล แน่ใจว่าอาหารที่ให้เพียงพอตามวัยและความต้องการของทารกให้มีคุณลักษณะที่เหมาะสมเพื่อกระตุ้นกระบวนการทางเดินอาหาร.
- การให้ทารกมีการเคลื่อนไหวเพียงพอสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบทางเดินอาหารและการถ่ายของทารกได้ สามารถให้ทารกกระตุ้นการเคลื่อนไหวโดยการหมุนขา โค้งตัว หรือเล่นกับทารก.
- ให้ทานน้ำเพียงพอสามารถช่วยในการย่อยของอาหารในลำไส้และกระตุ้นกระบวนการถ่ายของทารก.
- การเปลี่ยนผ้าอ้อมอาจช่วยกระตุ้นการถ่ายของทารกได้.
- หากทารกไม่ขับถ่ายเป็นระยะเวลานานหรือมีอาการไม่ปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้การวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม.
- คุณควรเฝ้าระวังสถานการณ์ของทารกและติดตามความเปลี่ยนแปลง หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการเพิ่มเติมควรปรึกษาแพทย์อีกครั้ง.

ไม่ถ่ายกี่วันคือปกติหรือผิดปกติ
การถ่ายของทารกอาจถ่ายได้หลายครั้งต่อวัน หากไม่ถ่ายเป็นเวลานานกว่า 48 ชั่วโมง อาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางสุขภาพ ซึ่งอาจเป็นเรื่องลำบากสำหรับพ่อแม่ ดังนั้นจึงต้องเริ่มสังเกตอาการของทารกและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อให้ทารกมีสุขภาพที่ดี ๆ
ปกติแล้ว ทารกควรถ่ายอุจจาระทุกวัน และถ้าทารกถ่ายได้น้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือถ่ายไม่เหมาะสม เช่น ถ่ายมีเลือด หรือหยุดถ่ายเป็นเวลานาน เป็นต้น อาจถือว่าแสดงอาการผิดปกติและต้องพบแพทย์เพื่อตรวจสอบสุขภาพของทารก
การดูแลทารก
ถ้าลูกของคุณไม่ถ่ายอุจจาระเป็นเวลานาน อาจจะต้องพบแพทย์เพื่อตรวจสอบสุขภาพของทารก แต่ในบางกรณีคุณอาจทำได้ด้วยการดูแลแบบบ้าน ดังนี้
วิธี | อธิบาย |
---|---|
การทานน้ำ | ลูกของคุณอาจไม่ถ่ายอุจจาระเพราะขาดน้ำ ดังนั้นคุณควรให้น้ำให้ลูกของคุณด้วยน้ำผลไม้หรือน้ำดื่มสะอาด |
การเคลื่อนไหว | ถ้าลูกของคุณมีปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหว คุณอาจต้องใช้เทคนิคการกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลูก โดยการทำกล้ามเนื้อการเคลื่อนไหวทั่วไป หรือการใช้เครื่องมือสำหรับการกระตุ้นกล้ามเนื้อการเคลื่อนไหว |
การแก้ไขปัญหาทางสุขภาพ | ทารกที่มีปัญหาทางสุขภาพอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่ถ่ายอุจจาระ ดังนั้นคุณควรพบแพทย์เพื่อแก้ไขปัญหาทางสุขภาพ |
หมายเหตุ: ไม่ควรใช้วิธีการป้องกันการไม่ถ่ายให้เกิดกับทารกใหม่เกินไป เพราะอาจกระทบต่อการเจริญเติบโตของทารกได้
ทารกเบ่งอุจจาระไม่ออก เรื้อรังและวิธีการแก้ไข
การเบ่งอุจจาระไม่ออกเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้บ่อยในทารกและเด็ก เหตุผลอาจเกี่ยวข้องกับการรับประทานอาหาร หรือปัจจัยทางสุขภาพอื่นๆ ที่มีผลต่อระบบทางเดินอาหารของทารก
อาการเรื้อรัง | วิธีการแก้ไข |
---|---|
ทารกเบ่งอุจจาระไม่ออกเป็นเวลานาน หลายวันหรือหลายสัปดาห์ |
|
ทารกเบ่งอุจจาระไม่ออกและมีอาการแสดงอื่นๆ เช่น ท้องอืด ท้องเสีย และอ่อนเพลีย | หากทารกมีอาการแสดงอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเบ่งอุจจาระ, ควรพบแพทย์เพื่อประเมินสุขภาพของทารกและการรักษา |
หากทารกเบ่งอุจจาระไม่ออกเป็นเวลานาน, ควรพบแพทย์เพื่อประเมินสุขภาพของทารกและหาสาเหตุของปัญหา และการรักษาที่เหมาะสมในแต่ละกรณี นอกจากนี้ ควรเฝ้าระวังและดูแลทารกอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ทารกเข้าสู่กระบวนการเบ่งอุจจาระได้อย่างปกติ
สาเหตุที่ทารกถ่ายอุจจาระบ่อยเกินไป
การถ่ายอุจจาระบ่อยเกินไปของทารกอาจเกิดจากสาเหตุหลายประการ อาจเกี่ยวข้องกับอาหารที่ทารกรับประทานหรือสภาพจิตใจ ดังนี้
- การรับประทานนมผิดปกติ – การรับประทานอาหารที่รสชาติและส่วนผสมไม่เหมาะสม อาจก่อให้เกิดการไม่ย่อยอาหารได้ และทำให้ทารกถ่ายอุจจาระบ่อยเกินไป
- การเปลี่ยนแปลงในอาหาร – การเปลี่ยนแปลงในอาหารที่ทารกได้รับอาจเป็นสาเหตุของการถ่ายอุจจาระบ่อยเกินไป อาจเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงอาหารรวมถึงการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการย่อยอาหารของทารกด้วย
- โรคทางเดินอาหาร – การเกิดโรคทางเดินอาหาร เช่น ปัสสาวะเป็นเลือด, ท้องผูก, และโรคตับอื่นๆ อาจทำให้ทารกถ่ายอุจจาระบ่อยเกินไป
- ความเครียดและภาวะวิตกกังวล – ความเครียดและภาวะวิตกกังวลของแม่อาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของทารก และอาจทำให้ทารกถ่ายอุจจาระบ่อยเกินไป
การรับประทานอาหารที่ถูกต้อง
การรับประทานอาหารที่เหมาะสมจะช่วยลดปัญหาการถ่ายอุจจาระบ่อยเกินไปของทารกได้ พ่อแม่ควรให้นมเป็นอาหารหลักในช่วงแรกๆ และควรเลือกอาหารที่ต่อเนื่องตามอายุของทารก และอย่าลืมเสริมด้วยผัก ผลไม้ เพื่อลดปัญหาทางเดินอาหารของทารก
การตรวจสุขภาพทางเดินอาหาร
การตรวจสุขภาพทางเดินอาหารของทารก เป็นเรื่องที่สำคัญสาเหตุของปัญหาการถ่ายอุจจาระบ่อยเกินไป แม่ควรเฝ้าระวังอาการที่พบบ่อยๆ เช่น ท้องบวม การถ่ายของทารกไม่สม่ำเสมอ หรือการมีเลือดออกกับอุจจาระ เพื่อที่จะได้รู้ว่าทารกมีปัญหาอะไร และให้แพทย์ดูแล

วิธีการป้องกัน
การป้องกันนั้นสำคัญที่สุดคือการดูแลเรื่องอาหารที่ทารกรับประทาน และปัจจัยอื่นที่อาจทำให้ทารกถ่ายไม่ออก ดังนั้น หากคุณกำลังจะเลี้ยงทารก เราขอแนะนำวิธีการป้องกันทารกไม่ถ่ายดังนี้
- เลือกอาหารที่เหมาะสมสำหรับทารก
- สังเกตและจัดการกับปัจจัยที่อาจทำให้ทารกถ่ายไม่ออก เช่น การให้น้ำเพียงพอ การดูแลระบบทางเดินอาหารและการเคลื่อนไหวของทารก
- เสริมสร้างระบบทางเดินอาหารของทารก โดยการให้นมแม่หรือนมผสม เพื่อช่วยล้างลบของเสียออกจากร่างกาย
- สังเกตอาการของทารก และตรวจสุขภาพโดยแพทย์บ่อยๆ
คำแนะนำในการรักษา
การดูแลทารกเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยจะต้องพยายามรักษาทารกให้ร่าเริงและปลอดภัยตลอดเวลา เพื่อสร้างสุขภาพที่ดีให้กับทารกของคุณ เช่น
- ตรวจสุขภาพทางเดินอาหารของทารกให้เป็นประจำ. หากพบว่ามีปัญหาก็ควรนำทารกไปพบแพทย์ทันที
- ดูแลให้ทารกได้รับอาหารที่เหมาะสมและธรรมชาติ เช่น นมแม่ หรืออาหารเสริมที่ผ่านการตรวจสอบแล้วว่าเหมาะสมกับทารก
- ไม่ควรใช้ยาระบบทางเดินอาหารหรือวิธีการแพทย์ที่ไม่เหมาะสมกับทารก หากคุณไม่แน่ใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
- ติดตามอาการของทารกอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะสังเกตและปรับปรุงสภาพของทารกได้ทันที
หากคุณมีข้อสงสัยใดๆเกี่ยวกับการรักษา คุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม
สรุป
การไม่ถ่ายของทารกเป็นปัญหาที่พ่อแม่ควรให้ความสำคัญ เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางสุขภาพ หากพบว่าทารกไม่ขับถ่ายเป็นเวลาหลายวัน พ่อแม่ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม เพื่อให้ทารกมีสุขภาพที่ดี
นอกจากนี้ การดูแลทารกที่ไม่ถ่ายอย่างถูกต้อง เช่น การให้รับประทานน้ำ และการใช้วิธีการส่งเสริมกระบวนการถ่ายของทารก สามารถช่วยในการควบคุมอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงในการพบปัญหาทางสุขภาพในอนาคต
บทความใหม่น่าสนใจ : เคล็ดลับเตรียมเป็นคุณแม่มือใหม่ต้องรู้อะไรบ้าง ? รับมือยังไงดี ?
FAQs
ความถี่ในการถ่ายของทารกสามารถแตกต่างกันไปได้ แต่ในระยะแรกนั้นทารกมักจะถ่ายบ่อยกว่า เพื่อเอาสารพิษออกจากร่างกาย
คุณควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อประเมินสถานะและตรวจสอบว่ามีปัญหาสุขภาพอะไรที่อาจเกี่ยวข้อง
สีแตกต่างกันไปตามสารอาหารที่ทารกได้รับ แต่ถ้าขี้สีน้ำตาลหรือเข้มมาก อาจเป็นไปได้ว่าทารกกำลังเจ็บป่วย
การให้นมแม่เป็นสิ่งที่สามารถช่วยในกระบวนการย่อยอาหารและการถ่ายของทารก
ข้อมูลอ้างอิง : https://www.webmd.com/baby/what-is-cryptic-pregnancy